วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

12 วิธีการดูแลรักษาโน๊ตบุค

1. อย่าใช้งานนานเกินไปเนื่องจากโน้ตบุ๊คมีพื้นที่ในการระบายความร้อนค่อนข้างจำกัด แม้ในปัจจุบันผู้ผลิตโน้ตบุ๊คจะติดตั้งระบบพัดลมระบาย ความร้อนที่มีประสิทธิภาพแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความร้อนบางส่วนสะสมอยู่ในภายในเครื่องได้ ซึ่งความร้อนเหล่านี้อาจส่งผล ให้การทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องมีอายุการใช้งานสั้นลงได้ หากใช้โน้ตบุ๊คไประยะหนึ่ง ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรือรู้สึกว่าตัวเครื่องมีความร้อนสูงพอสมควรแล้ว เราก็ควรปิดเครื่องเพื่อเป็นการพักเครื่องสักระยะหนึ่งก่อนแล้วจึงเปิด ใช้งานใหม่อีกครั้ง น่าจะเป็นการใช้งานที่เหมาะสมกว่า

2. การกระทบกระเทือนเป็นศัตรูตัวฉกาจของโน้ตบุ๊ค
เมื่อมีความจำเป็นต้องพกพาโน้ตบุ๊คไปไหนด้วย การใส่โน้ตบุ๊คไว้ในกระเป๋าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันโน้ตบุ๊คจากการ กระทบกระเทือน การกดทับก็เช่นกัน มีผู้ใช้บางรายใส่โน้ตบุ๊คไว้ในกระเป๋าเดินทาง ซี่งอาจทำให้กระเป๋าของเราถูกวางซ้อนจาก กระเป๋าใบอื่นได้ หรืออาจถูกจับโยนจนทำให้จอภาพแตกได้ หากนำไปเข้าศูนย์ แม้จะอยู่ในระยะเวลารับประกันก็ไม่สามารถเคลม ประกันได้ เพราะไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของตัวสินค้า ดังนั้นเวลาเดินทางควรเก็บโน้ตบุ๊คในกระเป๋าถือที่อยู่กับตัวตลอด เวลาดีกว่า

3.บำรุงรักษาจอ LCD
หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วหรือของแข็งสัมผัสหน้าจอ เนื่องจากโครงสร้างภายในของจอ LCD ประกอบด้วยชั้นแก้วบางๆ ผลึกคริสตัลเหลว และชั้นโพลาไลซ์กรองแสง ทำให้จอ LCD เป็นจอภาพที่ค่อนข้างบอบบางต่อการกระทบกระเทือน และแรงกด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือหรือของแข็ง
ทำความสะอาดจอภาพอย่างถูกวิธี โดยหาซื้อน้ำยาและผ้าที่ใช้สำหรับทำความสะอาดหน้าจอโดยเฉพาะ หรือถ้าไม่อยาก เสียเงิน จะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ (เอาแค่ชื้น ๆ อย่าให้น้ำหยดเด็ดขาด) มาเช็ดทำความสะอาดหน้าจอก็ได้ โดยการเช็ด ทำความสะอาด ควรเช็ดอย่างเบามือที่สุด และเช็ดไปในทางเดียวกัน ห้ามเช็ดแบบหมุนวนเด็ดขาด เพราะอาจสร้างรอย ขีดข่วนให้กับจอภาพได้
***ห้ามฉีดน้ำหรือน้ำยาลงบนจอภาพโดยเด็ดขาด ควรฉีดน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดลงบนผ้าก่อนแล้วจึงนำไปเช็ด
เพราะหยดหรือละอองน้ำอาจหลุดเข้าไปในช่องลำโพง คีย์บอร์ด และข้อต่อต่างๆ อันอาจส่งผลให้เครื่องเสียหายได้***

4. แบ็คอัพข้อมูลไว้ก่อน
เนื่องจากอาจมีความบกพร่องทางฮาร์ดแวร์ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ และไวรัสที่อาจเข้าทำลายข้อมูล ดังนั้นการแบ็คอัพข้อมูล หรือทำการสำรองข้อมูลจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง

5. ไม่ควรเสียบชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา
เราควรใช้แบตเตอรี่ให้หมดก่อนจึงจะชาร์จใหม่ เพื่อเป็นการยืดอายุดการใช้งานของแบตเตอรี่ หรือบางรุ่นก็แนะนำว่าทุก 2-3 เดือน ให้ใช้แบตเตอรี่จนหมดหรือเกือบหมดสักครั้งก่อนจะชาร์จใหม่

6. ทำความสะอาจโน้ตบุ๊คอยู่เสมอ
เนื่องจากโน้ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์ที่มีซอกมีมุมที่ฝุ่นผงมีโอกาสเข้าไปสะสมได้อยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็นแป้นคีย์บอร์ด ช่องลำโพง หรือข้อต่อต่าง ๆ เป็นต้น อุปกรณ์เสริมที่คุณควรมีก็คือ น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แปรงเล็กๆ หรือหาเครื่อง ดูดฝุ่นขนาดเล็กสักเครื่องไว้ใช้ก็ดี

7. หลีกเลี่ยงสิ่งสกปรก
ขณะใช้โน้ตบุ๊ค เราไม่ควรนำอาหาร น้ำดื่ม เข้ามารับประทานหรือวางใกล้โน้ตบุ๊ค ทั้งนี้เพราะความชื้นรวมถึงเศษอาหาร อาจหลุดเข้าไปทำความเสียหายให้โน้ตบุ๊คได้

8. ศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด
คู่มือการใช้งานเป็นแหล่งข้อมูลอันมีค่าสำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊ค เพราะโน้ตบุ๊คแต่ละรุ่นอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราควรศึกษาคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับโน้ตบุ๊คอย่างละเอียด

9. หลีกเลี่ยงแผ่นดิสก์ที่ไม่สมบูรณ์
เพราะอาจทำให้ไม่สามารถนำแผ่นดิสก์ออกจากไดรว์ไม่ได้

10. อย่าซน
ไม่ควรถอดหรือแคะแกะชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโน้ตบุ๊คโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องเสียหายและหมดประกันได้ ถ้าหากโน้ตบุ๊คมีปัญหาควรส่งศูนย์ซ่อมทันที ไม่ควรพยายามแก้ไขเครื่องด้วยตนเอง

11. หากมีอาการผิดปกติ ควรเข้าศูนย์ทันที
หากใช้งานโน้ตบุ๊คอยู่ดี ๆ เกิดอาการผิดปกติทางด้านฮาร์ดดิสก์ เช่น ไดรว์อ่านไม่ค่อยได้ หรืออ่านไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ไม่ได้ เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านซอฟร์แวร์ หรือ ฮาร์ดแวร์ ก็ควรรีบนำเครื่องเข้าศูนย์เพื่อปรึกษาปัญหาทันที

12. ต่ออายุการรับประกัน
เมื่อหมดอายุการรับประกัน ถ้าผู้ขายโน้ตบุ๊คบางรายอาจจะให้ต่ออายุการรับประกันเพิ่มขึ้นอีก 1-3 ปี โดยต้องเสียเงินเพิ่ม อีกก้อนหนึ่ง ก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับเครื่องเสียเมื่อหมดระยะเวลาการรับประกัน

วิธีการแต่งภาพ

หลายคนอาจจะงงว่าภาพ โลโม (LOMO) มันคืออะไร มันก็คือภาพที่มี Contrast จัดๆ ขอบรูปมืดๆ นั้นเอง ภาพที่ตกแต่งด้วยสไตล์โลโมนั้นจะมีลักษณะสีที่ดูสดขึ้น ทำให้ภาพธรรมดา ๆ มีความโดดเด่นขึ้นในด้านของสีสรรที่สวยงาม แม้ว่าเราจะไม่มีกล้องโลโมที่จะถ่ายภาพให้ออกมาแปลกตา แต่เราก็สามารถนำภาพจากกล้องดิจิตอลของเรา มาดัดแปลงแต่งเติมให้เป็นภาพแนวโลโมได้ไม่ยากค่ะ วันนี้ทางทีมงาน Design guru ขอแนะนำวิธีการทำภาพแนวโลโมแบบไม่ต้องออกแรงมากค่ะ เพราะเราจะใช้ Script ซึ่งเป็นวิธีแบบสำเร็จรูป
ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำงั้น จะต้องโหลดตัว Script มาลงก่อนค่ะ โหลด Script Lomo จากนั้นทำการแตกไฟล์ที่ได้มา แล้วนำไฟล์ที่ชื่อว่า CHLomoScript ไปไว้ที่ C:\Program Files\Adobe\Adobe Photoshop CS2\Presets\Scripts เมื่อลง Script เรียบร้อยแล้วก็เปิดโปรแกรม Photoshop ได้เลยค่ะ
1. ให้เปิดรูปที่ต้องการขึ้นมาค่ะ โดยไปที่ File---->Open
 
2. เมื่อได้รูปที่ต้องการแล้วให้ไปที่ เมนู File ---> Scripts --- > CHLomoScript ค่ะ แล้วรอสักครู่เพื่อให้โปรแกรมจัดการรูปภาพให้เรา
 
3. จากรูปที่ได้จะเห็นว่าสีมันจัดจ้านแสบตามาก เราต้องมาลดสีมันนิดหน่อย โดยคลิกเลือกที่เลเยอร์ Background และไปที่เมนู Image ---> Adjustments ---> Hue/saturation หรือ Ctrl+U
ปรับค่า Saturation ตามใจชอบเพื่อลดความจัดของสีลงหน่อย จากในตัวอย่างปรับลดลงประมาณ -35
รูปที่ทำเรียบร้อยแล้ว
เปรียบเที่ยบความแตกต่างของรูปก่อนทำและหลังทำ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

บทความน่าสนใจ

ระบบ 3G คืออะไร / เทคโนโลยี 3G หมายถึง / ความเร็ว 3G

เทคโนโลยี 3G พัฒนามาจากอะไร ระบบ 3G คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร
ระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของ ระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMA ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่น

สำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+

HSDPAนั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )
HSUPAจะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps
HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps

สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้

คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True
คลื่นความถี่ ( band ) 900 จะถูกพัฒนาโดย AIS (ใช้ชั่วคราวที่เชียงใหม่ และ Central World)
คลื่นความถี่ ( band ) 2100 กำลังรอ กทช. ทำการประมูลเพื่อจัดสรรคลื่นความถี่
คลื่นความถี่ ( band ) 1900 และ 2100 จะถูกพัฒนาโดย TOT

ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่านั้น

บทความใหม่

หลังจากประสบความสำเร็จในการผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ดังที่สุดในโลกอย่าง iPhone บริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ ก็ได้ดำเนินการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ที่พร้อมจะเขย่าโลก โดยครั้งนี้เป้าหมายไม่ใช่วงการมือถือเหมือนครั้งผลิต iPhone คราวนี้แอปเปิ้ลจะเขย่าวงการคอมพิวเตอร์ด้วย iPad
iPad เปิดตัวอวดโฉมเป็นครั้งแรกที่ ซานฟรานซิสโก ในวันที่ 27 มกราคม 2010 โดยมีนาย สตีฟ จ๊อบส์ ผู้บริหารบริษัทแอปเปิ้ล เป็นคนนำตัว iPad ออกมาให้โลกได้เห็นเป็นครั้งแรก ท่ามกลางบรรดาเหล่าสื่อมวลชนที่แห่กันมาทำข่าวกันคับคั่ง

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ขนมไทย

บทความใหม่

Tablet PC คืออะไร

เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติเท่ากับคอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่เสริมความสามารถต่างๆ เช่น ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถใช้ปากกาดิจิตอลสั่งการได้ที่หน้าจอภาพโดยตรง เป็นต้น สำหรับระบบปฏิบัติการก็ยังคงใช้ Windows XP สำหรับ Tablet PC โดยเฉพาะ โดยใช้ชื่อว่า Windows XP Tablet PC ลักษณะภายนอกของตัวเครื่องคอมฯ จะเหมือนกัน Notebook ทั่วไป (ถ้าไม่ได้มีการสังเกตให้ดีๆ)

ทำไมต้องเป็น Tablet PC

  • ขนาดเล็ก พกพาสะดวก น้ำหนักเบา
  • แบตเตอรี่ทำงานได้ยาวนานกว่า
  • บางรุ่นสามารถหมุนหน้าจอได้ บางรุ่นสามารถแยกแป้นพิมพ์ออกจากกันได้
  • สามารถใช้ปากกาดิจิตอลสั่งงานได้
  • สามารถเขียนด้วยลายมือด้วยปากกาดิจิตอลและแปลงเป็นตัวอักษรได้อัตโนมัติ
  • Microsoft Office ก็มีรุ่นที่รองรับกับ Tablet PC โดยเฉพาะเช่นกัน
  • มีโปรแกรมเสริมอื่นๆ อีก ที่รองรับการใช้งาน Tablet PC
  • สะดวกและเหมาะสำหรับการนำเสนอ เพราะขนาดบางเบา แถมหมุนหน้าจอได้ระหว่างการนำเสนองาน
ปัจจุบันมีคอมพิวเตอร์หลายๆ ยี่ห้อได้พัฒนา Tablet PC ออกได้ให้เราได้เลือกเปรียบเทียบกันได้ ได้แก่ HP, Fujitsu, Toshiba, Acer เป็นต้น แต่สำหรับเรื่องราคาแล้ว ยังต้องยอมรับว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ Notebook ทั่วไป ยังคงก็ถือว่าเป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่ง สำหรับคนใช้เทคโนโลยีอย่างเราๆ